ผู้เชี่ยวชาญด้านขวดแก้วและฝาอลูมิเนียม

ประสบการณ์การผลิต 15 ปี

ทำไมความจุมาตรฐานของขวดไวน์ถึง 750 มล.

01 ความจุของปอดกำหนดขนาดของขวดไวน์

ผลิตภัณฑ์แก้วในยุคนั้นล้วนถูกเป่าด้วยมือโดยช่างฝีมือ และความจุปอดปกติของคนงานอยู่ที่ประมาณ 650ml~850ml ดังนั้นอุตสาหกรรมการผลิตขวดแก้วจึงใช้ 750ml เป็นมาตรฐานการผลิต

02 วิวัฒนาการของขวดไวน์

ในศตวรรษที่ 17 กฎหมายของประเทศในยุโรปกำหนดให้โรงบ่มไวน์หรือพ่อค้าไวน์ต้องขายไวน์ให้กับผู้บริโภคจำนวนมากมันจะมีฉากนี้ พ่อค้าไวน์ตักไวน์ใส่ขวดเปล่า จุกไวน์แล้วขายให้ผู้บริโภค หรือผู้บริโภคซื้อไวน์ด้วยขวดเปล่าของเขาเอง

ในตอนแรก กำลังการผลิตที่เลือกโดยประเทศต่างๆ และพื้นที่การผลิตไม่สอดคล้องกัน แต่ต่อมา "บังคับ" โดยอิทธิพลระหว่างประเทศของบอร์กโดซ์ และการเรียนรู้เทคนิคการผลิตไวน์ของบอร์กโดซ์ ประเทศต่างๆ จึงนำขวดไวน์ขนาด 750 มล. ที่ใช้กันทั่วไปในบอร์โดซ์มาใช้

03 เพื่อความสะดวกในการขายให้ชาวอังกฤษ

สหราชอาณาจักรเป็นตลาดหลักสำหรับไวน์บอร์กโดซ์ในเวลานั้นไวน์ถูกขนส่งด้วยน้ำในถังไวน์ และความสามารถในการบรรทุกของเรือคำนวณตามจำนวนถังไวน์ในเวลานั้นความจุของถังคือ 900 ลิตรและถูกส่งไปยังท่าเรืออังกฤษเพื่อบรรทุกขวดจุได้ 1200 ขวด แบ่งเป็น 100 กล่อง

แต่อังกฤษวัดเป็นแกลลอนแทนที่จะเป็นลิตร ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการขายไวน์ ชาวฝรั่งเศสจึงกำหนดความจุของถังไม้โอ๊คเป็น 225 ลิตร ซึ่งเท่ากับ 50 แกลลอนถังไม้โอ๊คบรรจุไวน์ได้ 50 กล่อง แต่ละขวดบรรจุได้ 6 ขวด ซึ่งเท่ากับขวดละ 750 มล.

คุณจะพบว่าแม้ว่าทั่วโลกจะมีขวดไวน์หลากหลายประเภท แต่ทุกรูปทรงและขนาดล้วนมีขนาด 750 มล.ความจุอื่นๆ มักจะเพิ่มเป็นทวีคูณของขวดมาตรฐานขนาด 750 มล. เช่น 1.5 ลิตร (สองขวด), 3 ลิตร (สี่ขวด) เป็นต้น

04 750ml เหมาะสำหรับดื่มสองคน

ไวน์ขนาด 750 มล. เหมาะสำหรับผู้ใหญ่สองคนที่จะเพลิดเพลินกับอาหารค่ำ โดยเฉลี่ย 2-3 แก้วต่อคน ไม่มากหรือน้อยไปกว่านี้ไวน์มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของการพัฒนาและเป็นเครื่องดื่มโปรดประจำวันของขุนนางตั้งแต่สมัยโรมโบราณในเวลานั้น เทคโนโลยีการผลิตเบียร์ยังไม่สูงเท่าตอนนี้ และปริมาณแอลกอฮอล์ก็ไม่สูงเท่าตอนนี้ว่ากันว่าขุนนางในสมัยนั้นดื่มเพียง 750 มล. ต่อวัน ซึ่งจะทำให้มึนเมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น


เวลาโพสต์: มี.ค.-22-2022